วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

ERP Package


ERP  package  คืออะไร
         ERP  package  เป็น application software  package  ซึ่งผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทผู้จำหน่าย  ERP  package (Vendor   หรือ  Software Vendor)   
เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างและบริหารงานระบบ  ERP  โดยจะใช้  ERP  package  ในการสร้างระบบงานการจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต  การขาย  การบัญชี  และการบริหารบุคคล  ซึ่งเป็นระบบงานหลักขององค์กรขึ้นเป็นระบบสารสนเทศรวมขององค์กรโดยรวมระบบงานทุกอย่างไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน

จุดเด่นของ  ERP  package
1. เป็น  Application Software  ที่รวมระบบงานหลักอันเป็นพื้นฐานของการสร้างระบบ  ERP ขององค์กร
         ERP  package จะต่างจาก  software package  ที่ใช้ในงานแต่ละส่วนในองค์กร  เช่น    production  control software, accounting software ฯลฯ   แต่ละ software ดังกล่าวจะเป็น  application  software เฉพาะสำหรับแต่ละระบบงานและใช้งานแยกกัน    
ขณะที่ ERP  package  นั้นจะรวมระบบงานหลักต่างๆ ขององค์กรเข้าเป็นระบบอยู่ใน  package  เดียวกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างระบบ  ERP  ขององค์กร
2. สามารถเสนอ  business scenario และ  business process  ซึ่งถูกสร้างเป็น  pattern  ไว้ได้
         ERP package ได้รวบรวมเอาความต้องการสำคัญขององค์กรเข้าไว้ เป็นระบบในรูปแบบของ  business process  มากมาย  ทำให้ผู้ใช้สามารถนำเอารูปแบบต่างๆ ของ business   process  ที่เตรียมไว้มาผสมผสานให้เกิดเป็น  business scenario  ที่เหมาะสมกับลักษณะทางธุรกิจขององค์กรของผู้ใช้ได้
       3. สามารถจัดทำและเสนอรูปแบบ  business process  ที่เป็นมาตรฐานสำหรับองค์กรได้ 
            การจัดทำ  business process  ในรูปแบบต่างๆ นั้นสามารถจัดให้เป็นรูปแบบมาตรฐาน
      ของbusiness process ได้ด้วย ทำให้บางกรณีเราเรียก  ERP ว่า standard application software 
      package                                                                                        

สาเหตุที่ต้องนำ  ERP  package มาใช้ในการสร้างระบบ คือ
1. ใช้เวลานานมากในการพัฒนา  software 
          การที่จะพัฒนา  ERP  software  ขึ้นมาเองนั้น มักต้องใช้เวลานานมากในการพัฒนา และจะต้องพัฒนาทุกระบบงานหลักขององค์กรไปพร้อมๆ กันทั้งหมด จึงจะสามารถรวมระบบงานได้ ตามแนวคิดของ ERP ซึ่งจะกินเวลา  5-10  ปี  แต่ในแง่ของการบริหารองค์กร  ถ้าต้องการใช้ ระบบ  ERP  ฝ่ายบริหารไม่สามารถจะรอคอยได้เพราะสภาพแวดล้อมในการบริหารมีการเปลี่ยนแปลงตลอดระบบที่พัฒนาขึ้นอาจใช้งานไม่ได้  ดังนั้นผู้บริหารจึงไม่เลือกวิธีการพัฒนา  ERP  software เองในองค์กร
2. ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูงมาก
     การพัฒนา  business software  ที่รวมระบบงานต่างๆเข้ามาอยู่ใน package เดียวกัน จะมีขอบเขตของงานกว้างใหญ่มากครอบคลุมทุกประเภทงาน  ต้องใช้เวลานานมากในการพัฒนาและค่าใช้จ่ายก็สูงมากตามไปด้วย หรือถ้าให้บริษัทที่รับพัฒนา software ประเมินราคาค่าพัฒนา ERP software ให้องค์กร ก็จะได้ในราคาที่สูงมาก ไม่สามารถยอมรับได้อีกเช่นกัน
3. ค่าดูแลระบบและบำรุงรักษาสูง
        เมื่อพัฒนา  business software  ขึ้นมาใช้เอง ก็ต้องดูแลและบำรุงรักษา และถ้ามีการเขียนโปรแกรมเพิ่มหรือแก้ไขโปรแกรม  การบำรุงรักษาจะต้องทำอยู่อย่างยาวนานตลอดอายุการใช้งาน  เมื่อรวมค่าบำรุงรักษาในระยะยาวต้องใช้เงินสูงมาก  อีกทั้งกรณีที่มีการปรับเปลี่ยน Software ไปตาม platform หรือ network ระบบต่างๆ ที่เปลี่ยนไปหรือเกิดขึ้นใหม่ ก็เป็นงานใหญ่ ถ้าเลือกที่จะดูแลระบบเองก็ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษานี้ พร้อมกับรักษา บุคลากรด้าน IT นี้ไว้ตลอดด้วย




โครงสร้างของ  ERP  package

1. Business Application Software Module
     ประกอบด้วย  Module  ที่ทำหน้าที่ในงานหลักขององค์กร คือ  การบริหารการขาย  การบริหารการผลิต การบริหารการจัดซื้อ  บัญชี  การเงิน  บัญชีบริหาร ฯลฯ  แต่ละ  Module  สามารถทำงานอย่างโดดๆได้ แต่ก็มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง  Module กัน เมื่อกำหนด parameter ให้กับ module จะสามารถทำการเลือกรูปแบบ business process หรือ business rule ให้ตอบสนองเป้าหมายขององค์กรตาม business scenario โดยมี business process ที่ปรับให้เข้ากับแต่ละองค์กรได้  ERP  package ที่ต่างกันจะมีเนื้อหา และน้ำหนักการเน้นความสามารถของแต่ละ  Module ไม่เหมือนกัน  และเหมาะกับการนำไปใช้งานในธุรกิจที่ต่างกัน  ในการเลือกจึงต้องพิจารณาจุดนี้ด้วย
2. ฐานข้อมูลรวม  (Integrated database)
     Business application module จะ share ฐานข้อมูลชนิด Relational database  (RDBMS) หรืออาจจะเป็น  database เฉพาะของแต่ละ  ERP  package ก็ได้  Software Module จะประมวลผลทุก  transaction แบบเวลาจริง และบันทึกผลลงในฐานข้อมูลรวม โดยฐานข้อมูลรวมนี้สามารถถูก  access  จากทุก  Software Module ได้โดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องทำ  batch processing หรือ File transfer  ระหว่าง  Software Module  เหมือนในอดีต  และทำให้ข้อมูลนั้นมีอยู่ ที่เดียวได้
3. System  Administration  Utility
     Utility  กำหนดการใช้งานต่างๆ ได้แก่ การลงทะเบียนผู้ใช้งาน,การกำหนดสิทธิการใช้, การรักษาความปลอดภัยข้อมูล, การบริหารระบบ  LAN และ network  ของ   terminal, การบริหารจัดการ  database เป็นต้น
4. Development  and Customize Utility
ERP สามารถออกแบบระบบการทำงานใน business process ขององค์กรได้อย่างหลากหลาย  ตาม business scenario แต่บางครั้งอาจจะไม่สามารถสร้างรูปแบบอย่างที่ต้องการได้  หรือมีความต้องการที่จะ  Customize บางงานให้เข้ากับการทำงานของบริษัท  ERP  package  จึงได้เตรียม  Utility  ที่จะสนับสนุนการพัฒนาโปรแกรมส่วนนี้ไว้ด้วย  โดยจะมีระบบพัฒนาโปรแกรมภาษา 4GL (Fourth Generation Language) ให้มาด้วย

Function ของ ERP package
         ERP package โดยทั่วไปจะจัดเตรียม Software module สำหรับงานหลักของธุรกิจต่าง ๆ ไว้ดังนี้
                1. ระบบบัญชี
                         1.1 บัญชีการเงิน              –General, Account Receivable, Account Payable,
                                                               Credit/Debit, Fixed Asset, Financial, Consolidated 
                                                               Accounts, Payroll, Currency Control(multi-currency)
                         1.2  บัญชีบริหาร              –Budget Control, Cost Control, Profit Control,      
                                                               Profitability Analysis, ABC Cost  Control,
                                                               Management Analysis, Business Plan
                2. ระบบการผลิต
                         2.1 ควบคุมการผลิต         –Bill of Material, Production Control, MRP,
                           Scheduling, Production Cost Control, Production
                           Operation Control, Quality Control, Equipment 
                           Control, Multi-location Production Supporting 
                           System
                         2.2 ควบคุมสินค้าคงคลั     –Receipt/Shipment Control, Parts Supply 
                                                              Control, Raw Material, Stocktaking
                         2.3 การออกแบบ            –Technical Information Control, Parts Structure
                                                              Control, Drawing Control, Design Revision
                          Support System
                         2.4 การจัดซื้อ                 –Outsourcing/Purchasing, Procurement,
                                                               Acceptance, การคืนสินค้า, ใบเสนอราคา, ใบสัญญา
                         2.5 ควบคุมโครงการ         –Budget, Planning, Project Control
    
                3. ระบบบริหารการขาย             –Demand/Sales Forecasting , Purchase Order, Sales
                                                               Planning/Analysis, Customer Management,
                                                               Inquiry Management, Quotation Management,
                                                               Shipment Control, Marketing, Sale Agreement,
                                                               Sale Support, Invoice/Sales Control
                4. Logistics                            –Logistic Requirement Planning ,
                                                              Shipment/Transport Control, Export/Import
                                                              Control, Warehouse management, Logistics
                                                              Support
                5. ระบบการบำรุงรักษา              – Equipment Management, Maintenance Control,
                                                               Maintenance Planning
                6. ระบบบริหารบุคคล                – Personnel Management, Labor Management,
                                                              Work Record Evaluation, Employment, Training
                                                              & HRD, Payroll, Welfare Management
                                                           
คุณสมบัติที่ดีของ  ERP package
                1. มีคุณสมบัติ online transaction system เพื่อให้สามารถใช้งานแบบ real time ได้
                2. รวมข้อมูลและ information ต่างๆ เข้ามาที่จุดเดียว และใช้งานร่วมกันโดย           
                     ใช้integrated     database
                3. มี application software module ที่มีความสามารถสูงสำหรับงานหลักๆ ของธุรกิจได้ อย่าง
                    หลากหลาย
                4. มีความสามารถในการใช้งานในหลายประเทศ ข้ามประเทศ จึงสนับสนุนหลายภาษา   
                    หลายสกุลตรา
                5. มีความยืดหยุ่น และสามารถปรับเปลี่ยนขยายงานได้ง่าย เมื่อระบบงานหรือโครงสร้าง  
                    องค์กรมีการเปลี่ยนแปลง
                6. มีขั้นตอนและวิธีการในการติดตั้งสร้างระบบ ERP ในองค์กรที่พร้อมและชัดเจน
                7. เตรียมสภาพแวดล้อม(ระบบสนับสนุน) สำหรับการพัฒนาฟังก์ชันที่ยังขาดอยู่เพิ่มเติมได้
                8. สามารถใช้กับเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ๆ
                9. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมาตรฐานระดับโลก มีความเป็นระบบเปิด (open system)
                10. สามารถ interface หรือเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบงานที่มีอยู่แล้วในบริษัทได้
                11. มีระบบการอบรมบุคลากรในขั้นตอนการติดตั้งระบบ
                12. มีระบบสนับสนุนการดูแลและบำรุงรักษาระบบ


ชนิดของ ERP package
1. ERP ชนิดที่ใช้กับทุกธุรกิจหรือเฉพาะบางธุรกิจ
   ERP package โดยทั่วไปส่วนมากถูกออกแบบให้สามารถใช้ได้กับงานแทบทุกประเภทธุรกิจ    
แต่งานหลักของธุรกิจซึ่งได้แก่ การผลิต การขาย Logistics ฯลฯ มักจะมีความแตกต่างกันตามประเภทของธุรกิจ  ดังนั้นจึงมี ERP package ประเภทที่เจาะจงเฉพาะบางธุรกิจอยู่ในตลาดด้วย เช่น ERP package สำหรับอุตสาหกรรมเคมี   อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมยา เป็นต้น
2. ERP สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่หรือสำหรับ SMEs
   แต่เดิมนั้น ERP package ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจขนาดใหญ่อย่างแพร่หลายต่อมาตลาดเริ่มอิ่มตัว ผู้ผลิตจึงได้เริ่มหันเป้ามาสู่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่  ขนาดกลาง หรือขนาดย่อม ระบบและเนื้อหาของระบบงานหลักต่างๆจะไม่แตกต่างกันมาก เพียงแต่ในธุรกิจขนาดใหญ่จะมีปริมาณของเนื้องานมากขึ้น   ปัจจุบันมี    ERP package ที่ออกแบบโดยเน้นสำหรับการใช้งานในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดยเฉพาะ ออกมาจำหน่ายมากขึ้น เช่น
-Oracle Application/Oracle
-People Soft
           -SAP
-CONTROL
-IFS Application
-MFG/PRO
      -J.D. Edwards
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น